ครีมกันแดด ทาอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด

ครีมกันแดด ทาอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด

ปัญหาของ ครีมกันแดด ที่ทาแล้วไม่ได้ผล ไม่สามารถป้องกันผิวตามระยะเวลาที่ระบุไว้บนฉลาก เช่น SPF 10 ควรจะสามารถปกป้องผิวหนังจากแดดเผาได้นานเป็นระยะเวลา 10 เท่า เมื่อเทียบกับผิวหนังที่โดนแดดโดยไม่ได้ทาครีมกันแดด ซึ่งโดยทั่วไป ผิวคนไทยถ้าไม่ได้ทา ครีมกันแดด เลยและไปยืนตากแดด จะเริ่มเห็นผิวหนังมีสีแดงภายในระยะเวลาเพียง 10-15 นาที ดังนั้นหากทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 10 ควรจะป้องกันผิวหนังจากแดดได้นานถึง 100-150 นาที แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้ผลเช่นนั้น เพราะมีหลายปัจจัย ที่สำคัญคือ

1. วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้องและได้ผล

ต้องทาครีมหนาเพื่อปกปิดผิวหนังทุกรูขุมขน ซึ่งเป็นวิธีการที่ผ่านการทดสอบในห้องทดลองจากนักวิทยาศาสตร์ แต่โดยทั่วไปผู้บริโภคมักจะนิยมทาเพียงเบาบาง ทำให้รังสีดวงอาทิตย์สามารถกระทบและทะลุเข้าสู่ผิวหนังได้บางส่วน นักวิชาการจึงแนะนำว่าหากต้องการทาแล้วได้ผลควรทาบ่อยๆ ทุก 1-2 ชั่วโมง

2. ภายหลังจากการทาครีมกันแดด

สภาวะความเป็นจริงคือ ผู้บริโภคมักจะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกายด้วยการตีกอล์ฟ ว่ายน้ำ วิ่ง เดิน หรืออื่นๆ ทำให้เหงื่อออกทางผิวหนังและแน่นอน ครีมกันแดดจะถูกชะออกโดยง่าย ทำให้ประสิทธิภาพของครีมกันแดดลดลงหรือหมดไปในบางกรณี

3. สารกรองรังสียูวีที่เป็นองค์ประกอบในครีมกันแดดหลายชนิดไม่คงตัว

สลายตัวเมื่อโดนความร้อนทำให้ครีมกันแดดเสื่อมประสิทธิภาพไป สินค้าบางตัวอาจเสื่อมไปตั้งแต่ยังไม่ทันได้ใช้ก็มี ในกรณีที่ผู้ขายเก็บไว้ในร้านค้าที่ร้อนหรือผู้บริโภคเองซื้อไปเก็บไว้ในที่ร้อน ทำให้สารกันแดดเสื่อมประสิทธิภาพก่อนเปิดใช้ ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือซึ่งสินค้าจะถูกเก็บรักษาในสถานที่ปรับอากาศ และพิจารณาฉลากถึงวันเดือนปีที่ผลิตว่าเก่าเก็บหรือไม่ เพราะนอกจาก ครีมกันแดด จะหมดประสิทธิภาพแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดพิษระคายเคืองต่อผิวหนังได้อีกด้วยกรณีที่ทาครีมกันแดดหมดอายุ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้